หนัง คริสเตน สจ๊วต ในบท กับบทบาทเป็นเจ้าหญิงไดอาน่าของเธอ ถือว่าแบกรับหนังเรื่องนี้เอาไว้ได้ค่อนข้างสบาย ๆ เลย ด้วยการแสดงสไตล์น้อยแต่มากของเธอ สร้างแรงขับเคลื่อนที่ทรงพลัง แต่เพียงดูการแสดงของ คริสเตน สจ๊วต ที่ทำออกมาได้ดีในเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นความคุ้มค่าที่จะดูแล้ว เรื่องเล่าที่โลกไม่เคยรู้ของเจ้าหญิงไดอาน่า ผ่านการแสดงที่ดีที่สุดของคริสเตน สจ๊วต ในเวอร์ชั่นนี้ นับว่าเลอค่ามาก เพราะนอกจากจะแสดงอารมณ์ สีหน้า และความรู้สึกแล้ว ยังต้องเลียนแบบท่าทาง น้ำเสียง และซิกเนเจอร์ของคนคนนั้นอีกด้วย จนเธอลบคำครหา “นางเอกหน้าตาย” ได้อย่างไร้มลทินมัวหมอง และรับการยกย่องว่า นี่คือการแสดงระดับมาสเตอร์พีซแห่งปีเลยกว่าได้ และคิดว่า รางวัลออสก้า คงไม่ไกลเกินลุ้น ทั้งเรื่อง การแสดง ภาพ ฉาก และเครื่องแต่งกาย ที่เป็นหนังเทสดีแห่งปีเลยก็ว่าได้องค์ประกอบเสื้อผ้าหน้าผมในSpencer เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของหนังที่ทำออกมาได้อย่างน่าหลงใหลเรื่องของเสื้อผ้าเก็บรายละเอียดและช่วงยุคได้เป็นอย่างดีการแต่งองค์ทรงเครื่องในเหมือนพระองค์ และยังแตกแขนกทำให้งานด้านอื่น ๆของหนังดูดีไปด้วย โดยเฉพาะงานถ่ายภาพ (Cinematography) ของ “แคลร์ มาตง” ผู้กำกับภาพชาวฝรั่งเศสที่สวยบาดใจในทุกซีน
เรื่องย่อ Spencer นกน้อยในกรงทอง
หนังเปิดตัว Diana เราจะได้เห็นความน่าเบื่อและหดหู่ของชีวิตนกน้อยในกรงทองขณะที่เธอกำลังขับรถไปร่วมเฉลิมฉลองคริสต์มาสกับราชวงศ์เช่นทุกปีแต่เธอเลทเพราะหลงทาง ซึ่งเราสามารถตีความได้ว่า มันไม่ใช่แค่การหาทางมา Sandringham ไม่เจอแต่ยังหมายถึงการหลงทาง หาทางออกไม่เจอ ไม่รู้ตัวเองอยู่ที่ไหน และมาทำอะไรที่นี่ที่ราชวงศ์นี้ ตลอดทศวรรษที่ผ่านมาหนังไม่ได้ต้องการให้คนดูมองเธอเป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ หรือสตรีชั้นสูงที่ขบถนอกคอกแต่อย่างใด หนังจึงใช้ชื่อเรื่องว่า “Spencer” อันเป็นชื่อนามสกุลดั้งเดิมของเธอให้มองเธอเหมือนเป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง แม่คนหนึ่งและภรรยาคนหนึ่งที่กำลังถูกสามีนอกใจ เมื่อถึงงานเลี้ยง ตอกย้ำว่า ชีวิตของเธอช่างโดดเดี่ยวเหมือนตัวประกอบฉากในงานเลี้ยง ในวังที่ใหญ่โต แต่เธอรู้สึกตัวเองตัวเล็กและต้องอยู่คนเดียวแทบตลอดเวลา ถึงแม้เราจะพอได้เห็นมุมน่ารักของเธอกับเจ้าชายน้อยทั้งสองอยู่บ้างซึ่งทำให้เราเข้าใจเลยว่าลูกคือสิ่งยึดเหนี่ยวสิ่งเดียวที่ทำให้เธอยังยอมมางานคริสต์มาสที่บ้านหลังนี้จริงๆ ตลอดเรื่องแทบไม่เห็นเธอได้มีปฏิสัมพันธ์กับราชวงศ์คนอื่นเลยแต่ละครั้งก็ไม่ได้ออกมาดี และยังมีระยะทางอย่างชัดเจน เราจะได้เห็นเธอคุยกับ Prince Charles นับครั้งได้ และคุยกับควีนเพียงครั้งเดียวซึ่งเป็นบทสนทนาที่ตอกย้ำถึงความไม่สำคัญของเธอถึงแม้เธอจะป็อปปูล่าร์สำหรับช่างภาพและประชาชนแค่ไหนก็ตามส่วนใหญ่เธอจะมีปฏิสัมพันธ์กับข้าราชบริพารเสียมากกว่า โดยเฉพาะ Maggie คนสนิท (ตัวละครที่แต่งขึ้น) แถมมา ๆ หาย ๆ คล้ายเพื่อนในจินตนาการมากกว่าแล้วนอกจาก Maggie ก็มีหัวหน้าเชฟอย่าง Darren ที่เป็นเสมือนเพื่อนในวังที่จริงใจกับ Diana ใน 3 วัน ของเรื่องนี้ เป็นควาอึดอัดอันแสนยาวนานชีวิตของ Diana ช่างเหมือนอดีตราชินี Anne Boleyn โดยเฉพาะในส่วนที่ถูกสามีหรือ King Henry VIII สั่งตัดหัวในข้อหามีชู้ทั้งที่คนที่มีชู้คือตัวคิงเองต่างหาก
บทสรุปหนัง Spencer
Diana กับชีวิตในกรงทอง มีแค่ Tense เดียวเพราะที่นี่ไม่มีอนาคต และอดีตกับปัจจุบันก็เหมือนเป็นอันเดียวกันทุกอย่างถูกสตาฟและถูกกำหนดเอาไว้หมดแล้ว Diana เองก็คิดว่าตัวเธอช่างเหมือนไก่ฟ้าที่สวยแต่ไม่ฉลาด ความคิด ความชอบ และความต้องการของเธอไม่สำคัญอะไรเลยแต่เธอต้องทำในสิ่งที่ไม่ชอบทำให้ได้ อาหารที่ไม่อยากกิน ก็ต้องกินและมีชะตาชีวิตที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ด้วยกรอบที่เรียกว่าขนบธรรมเนียมประเพณีเธอถูกเลี้ยงมาเพื่อเป็นเหยื่อให้พวกผู้ชายชั้นสูงได้ยิงเป้าตามประเพณีเท่านั้นแม้แต่เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็เลือกเองไม่ได้ สามีเองก็ได้แต่บอกว่าพวกเขาก็ต้องมีสองตัวตนเพื่อประเทศชาติและประชาชนเชิงสัญลักษณ์ คือ สร้อยไข่มุกที่เธอสวมใส่นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ของพันธนาการที่คล้องคอเธออย่างเห็นได้ชัดแล้วยังเป็นสัญลักษณ์ของการอดทนแบกรับความจริงที่ว่าสามีของเธอนอกใจและซื้อสร้อยไข่มุกให้เมียน้อยที่เหมือนกันเป๊ะอีกด้วยความหดหู่คือ Diana เป็นเชื้อพระวงศ์ที่เป็นที่รักของประชาชนที่สุดคนหนึ่งในโลกแต่ภายในวัง เธอโหยหาความรัก และโหยหาอดีตของเธอคือการใช้ชีวิตแบบคนธรรมดามีความสุขกับครอบครัวอย่างแท้จริง ทำในสิ่งที่เธออยากทำมีความหวังและมีอนาคตที่น่าค้นหามากกว่านี้ ดูหนังออนไลน์เรื่องเดียวเหมือนได้ดูหนัง ที่มีทั้งงานศิลปะและแฟชั่นดี ๆ ผ่านหนัง hd เรื่องหนึ่งที่จะทำให้มิติในเรื่องของ หนังใหม่ เรื่องนี้เป็นอีกงานศิลปะแขนงหนึ่งของวงการหนังใหม่ มาสเตอร์ เลยก็ว่าได้ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ผ่าน เว็บดูหนัง